เมนู
จดหมายข่าว
กล่องอิสระ
ปฎิทิน
April 2024
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
    
สถิติ
เปิดเมื่อ21/09/2012
อัพเดท12/04/2013
ผู้เข้าชม1308871
แสดงหน้า2723673
คำค้น




พระวิษณุหรือพระนารายณ์

อ่าน 13389 | ตอบ 2

 



 

พระวิษณุ (สันสกฤต: विष्णु Viṣṇu) หรือที่รู้จักกันในพระนามอีกอย่างหนึ่งว่า พระนารายณ์ เป็นหนึ่งในสามมหาเทพ มีหน้าที่คุ้มครองแลดูแลรักษาทั้ง 3 โลกตามความเชื่อของชาวฮินดู จากคัมภีร์พราหมณ์ รูปร่างลักษณะมีพระวรกายจะมีสีที่เปลี่ยนไปตามยุค ฉลองพระองค์ดั่งกษัตริย์ มีมงกุฎทอง อาภรณ์สีเหลือง มี 4 กร ถือ สังข์ จักร ตรี คทา แต่ที่จะพบเห็นได้บ่อยที่สุดคือถือ จักร์ สังข์ คทา ส่วนอีกกรจะถือ ดอกบัวบ้าง หรือ ไม่ถืออะไรเลยบ้าง (โดยจะอยู่ในลักษณะ'ประทานพร')

โดยปรกติ พระวิษณุ จะทรงประทับอยู่ที่เกษียรสมุทร โดยส่วนมากจะทรงบรรทมอยู่บนหลัง อนันตนาคราช โดยมีพระชายาคือ พระลักษมีมหาเทวี คอยฝ้าดูแลปรนิบัติอยู่ข้างๆเสมอ พาหนะของพระวิษณุคือ พญาครุฑ
 

พระวิษณุ มีอีกพระนามอีกอย่างหนึ่งว่า 'หริ' แปลว่าผู้ดูแลแห่งจักรวาลถือเป็นเทพสูงสุด เพราะทุกอย่างเกิดจาก 'หริ' โดย'หริ'ได้แบ่งตนเองออกเป็น 3 คือ

 -   พระพรหม มีหน้าที่สร้างและลิขิตสรรพสิ่งทั้งปวงในทั้งสามโลก
 -   พระวิษณุ หรือ พระหริ มีหน้าที่ดูแลทั้งสามโลกให้อยู่ในความเรียบร้อย และสมดุล
 -  พระศิวะ มีหน้าที่ทำลายสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายทั้งปวงในโลกทั้งสาม

การกำเนิดของพระวิษณุ
ในคัมภีร์ของลัทธิไวษณพ (นับถือพระวิษณุเป็นใหญ่) กล่าวว่าเมื่อยามที่พระวิษณุผู้เป็นใหญ่แห่งจักรวาลมีประสงค์จะสร้างโลกทั้ง 3 นั้น ท่านได้เห็นว่าการสร้างโลกทั้ง 3 นี้ เป็นงานที่หนักสำหรับคนเพียงคนเดียว ท่านจึงแบ่งบางส่วนของร่างกายพระองค์ออกเป็นมหาเทพทั้ง 3 พระองค์ โดยแขนซ้ายเป็นพระพรหม แขนขวาเป็นพระศิวะ และส่วนอกเป็น พระวิษณุ (แม้แต่ในรูปตรีมูรติ ก็จะเห็นว่า พระพักตร์ของพระวิษณุจะอยู่ตรงกลางเสมอ)

ส่วนในคัมภีร์ของลัทธิไศวะ (นับถือพระศิวะเป็นใหญ่) จะกล่าวต่างออกไปคือ “พระปรเมศวร” (พระศิวะ) เป็นผู้สร้างพระวิษณุ เนื่องจากทรงมีพระประสงค์จะสร้างสวรรค์และโลก ซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่ จึงได้ทรงต้องการผู้ช่วย โดยการนำหัตถ์ซ้ายมาลูบหัตถ์ขวา จึงบังเกิดเป็นเทพชื่อ “พระวิษณุ” หรือ “พระนารายณ์” พระปรเมศวร ได้สอนศิลปะด้านต่าง ๆ ให้กับพระวิษณุ ในทุกด้าน และให้ประทับอยู่ ณ เกษียรสมุทร เมื่อเกิดเหตุร้ายในโลกมนุษย์ หรือสวรรค์เมื่อใด พระวิษณุก็จะมีหน้าที่ไปปราบปรามเหล่าอสูร และผู้ประสงค์ร้ายนั้น ๆ โดยในบางคราวก็จะได้รับการร้องขอจากเหล่าเทพเทวดาบ้าง

คัมภีร์มหาภารตะ เล่าไว้ถึงพระนารายณ์ว่าแต่เดิมคือฤๅษีตนหนึ่ง เป็นบุตรของฤๅษีธรรมมะ ได้เดินทางจากโลกมนุษย์ ไปสู่สถานที่ของพวกพราหมณ์พร้อมเพื่อนสนิทนามว่า “นร” เพื่อบำเพ็ญเพียรจนได้รับการเคารพบูชาจากเทพเทวดาทั้งมวล ต่อมาได้รับการขอร้องจากเหล่าเทวดาให้ช่วยปราบอสูรที่สร้างความเดือดร้อน ฤๅษีทั้งสองจึงได้รับปากช่วยเหลือโดยได้ออกรบกับอสูรจนได้รับชัยชนะ จึงได้รับความเคารพนับถือจากเหล่าเทวดายิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน จนภายหลังฤๅษีนารายณ์ได้ออกเดินทางไปบำเพ็ญตนยังหิมาลัยจนบรรลุผลเป็นพราหมณ์ (ผู้รู้แจ้งทุกสิ่งในโลก) และได้เป็นผู้นำเหล่าพราหมณ์ในเวลาต่อมา จากการยกย่องบูชาตลอดที่ผ่านมาจนเป็นที่รู้จักในนาม “พระวิษณุ (นารายณ์) ”
 

พระนามของพระวิษณุ พระนารายณ์ มีผู้ขนานนามเรียกขานจากความแตกต่างกันตามความเชื่อ พระนามตามฤทธิ์อำนาจ และตามเหตุการณ์ที่ต่างกันตามกาล อาทิ อนันตะ ไม่สิ้นสุด จตุรภุช มี 4 กร มุราริ เป็นศัตรูแห่งมุระ นระ (นะระ) ผู้ชาย นารายณ์ ผู้ที่เคลื่อนไปในน้ำ ปัญจายุทธ พระผู้ทรงอาวุธทั้ง 5 อย่าง ปีตามพร ทรงเครื่องสีเหลือง ทโมทร มีเชือกพันเอาไว้รอบเอว กฤษณะ, โควินทะ, โคบาล ผู้เลี้ยงวัว ชลศายิน ผู้นอนเหนือน้ำ พระพิษณุหริ ผู้สงวน อนันตไศยน นอนบนอนัตนาคราช ลักษมีบดี ผู้เป็นสามีของพระลักษมี วิษว์บวร ผู้คุ้มครองโลก สวยภู เกิดเอง เกศวะ มีผมอันงาม กิรีติน ผู้ใส่มงกุฎ พระวิษณุ พระนารายณ์ ทรงประทับบนสวรรค์ เรียก ไวกูณฐ์ พาหนะ คือครุฑ พระวรกายสีนิล ฉลองดั่งกษัตริย์ มีมงกุฎ อาภรณ์สีเหลือง มี 4 กร ถือ สังข์ จักร ตรี คทา บ้างก็กล่าวไว้ว่าทรงถือ ดอกบัว ลูกศร ดอกไม้ หรือเชือกบ่วงบาศ หรือสายฟ้า อาวุธประจำที่ใช้ คือ สังข์ จักร คทา ธนู และพระขรรค์
 


 


นารายณ์ 10 ปาง...อวตารแห่งพระวิษณุในยุคต่างๆ
  
   ยุคที่ 1 : กฤดายุค
   (มนุษย์ตั้งอยู่ในศีลธรรม ประพฤติตนเป็นคนดี มีจิตสำนึก พระวิษณุจึงปรากฎวรรณะเป็นสีขาว)
  
   1. มัตสยาวตาร - อวตารเป็นปลาใหญ่
   ปราบสังขอสูร หรือ หัยครีพอสูร ผู้ขโมยคัมภีร์พระเวทของพระพรหมไปในขณะที่พระพรหมบรรทม

   2. กูรมาวตาร - อวตารเป็นเต่ายักษ์
   หรือ กัจฉปาวตาร อวตารเพื่อปราบอสูรมัจฉา ที่คิดจะทำลายเขาพระสุเมรุให้พังทลาย

   3. วราหาวตาร - อวตารเป็นหมูป่า
   ปราบอสูรนาม เหรัญยักษ์ ผู้ต้องการม้วนแผ่นดินไปทิ้งบาดาล

   4. นรสิงหาวตาร - อวตารเป็นมนุษย์กึ่งสิงห์
   ปราบหิรัณตะอสูร ผู้ก่อกวนให้ทวยเทพเกิดความไม่สงบสุขบนสวรรค์
  
   ยุคที่ 2 : ไตรดายุค
   (ศีลธรรมของมนุษย์ลดลงไป 1 ใน 4 ส่วน พระวิษณุจึงปรากฎวรรณะเป็นสีแดง)
  
   5. วามนาวตาร - อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ย
   หรือ ทวิชาวตาร คือ พราหมณ์ร่างเตี้ย เพื่อปราบ ตะวันตาอสูร ผู้ก่อกวนรังแกมนุษย์และสรรพสัตว์

   6. ปรศุรามาวตาร - อวตารเป็นพราหมณ์ถือขวาน
   อวตารเพื่อปราบกษัตริย์การตวิรยะ ผู้ก่อกวนเหล่าพราหมณ์
  
   ยุคที่ 3 : ทวาบรยุค
   (ศีลธรรมของมนุษย์ลดลงไปเป็น 2 ใน 4 ส่วน พระวิษณุจึงเปลี่ยนวรรณะเป็นสีเหลือง)
  
   7. รามาวตาร - อวตารเป็นพระราม
   ในมหากาพย์รามายณะ หรือ รามเกียรติ์
   อีกพระนาม คือ รามจันทราวตาร อวตารเพื่อปราบ ยักษ์ทศกัณฐ์

   8. กฤษณาวตาร - อวตารเป็นพระกฤษณะ
   ในมหากาพย์มหาภารตะ และ คัมภีร์ภควัทคีตา
   ปราบท้าวพาณาสูร และปราบอสูรนามพญากงส์ เป็นสารถีขับรถม้าให้แก่ อรชุน ในสงคราม ณ ทุ่งคุรุเกษตร
  
   ยุคที่ 4 : กลียุค (ยุคปัจจุบัน)
   (ศีลธรรมของมนุษย์ลดลงไปเป็น 3 ใน 4 ส่วน พระวิษณุจึงเปลี่ยนวรรณะเป็นสีดำ)
  
   9. พุทธาวตาร - อวตารเป็นพระพุทธเจ้า (จนถึงยุคปัจจุบัน)
   อวตารเพื่อเอาศิวลึงก์คืนมาจากท้าวตรีปุรัม ปราบท้าววัสดีมาร และเพื่อมาประทานธรรมะแก่ชาวโลก **พราหมณ์แก้ไขขึ้นมาใหม่เพื่อจะเอามาข่มพระพุทธศาสนาเนื่องจากยุคนั้นคนสนใจในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้ามากจึงได้ทำการบูชาพระองค์และเปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก

   10. กัลกยาวตาร - อวตารเป็นพระกัลกิ หรือ บุรุษผู้ขี่ม้าขาว
   ( ยังไม่อวตาร จะมาปรากฎในอนาคต)
   บุรุษขี่ม้าขาว ยังไม่ปรากฎในปัจจุบัน โดยพระองค์จะอวตารมาในอนาคต
   ทำนองเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตยในศาสนาพุทธ



 

พระนารายณ์ 10 ปาง ในความเชื่อของคนไทยบางกลุ่ม

    ปางที่ 1 วราหาวตาร (อวตารเป็นหมูเผือกเขี้ยวเพชร)
    ปางที่ 2 กูรมาวตาร (อวตารเป็นเต่าทอง)
    ปางที่ 3 มัตสยาวตาร (อวตารเป็นปลากรายทอง)
    ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร (อวตารเป็นครึ่งสิงห์)
    ปางที่ 5 วามนาวตาร หรือ ทวิชาวตาร (อวตารเป็นพราหมณ์เตี้ย)
    ปางที่ 6 มหิงสาวตาร (อวตารเป็นมหิงสา หรือควาย)
    ปางที่ 7 อัปสราวตาร (อวตารเป็นนางฟ้า)
    ปางที่ 8 รามาวตาร (อวตารเป็นมนุษย์ชื่อพระราม)
    ปางที่ 9 กฤษณาวตาร (อวตารเป็นพระกฤษณะ)
    ปางที่ 10 กัลกยาวตาร (อวตารเป็นมนุษย์เรียกว่า วีรบุรุษขี่ม้าขาว)

แท่นบูชาพระวิษณุ
   โต๊ะ หิ้ง หรือแท่นบูชาพระวิษณุ ควรปูด้วยผ้า สีทอง สีเหลือง สีแดง หรือสีขาว (ห้ามสีดำล้วน ถ้าสีดำควรมีลายทอง) เครื่องบูชาถ้าเป็นโลหะควรเป็นสีทอง ถ้าเป็นหินอ่อนควรเป็นสีขาว เช่น เชิงเทียนควรทำจากโลหะทองเหลือง หรือกระถางธูปควรเป็นหินอ่อน (แต่ก็เป็นในแง่ของสัญลักษณ์และความหมายเท่านั้น หากจัดหาไม่ได้ก็ให้จัดวัสดุหรือสีอื่นทดแทนได้)

   ดอกไม้บูชาพระวิษณุ
   พระองค์โปรดดอกไม้ทุกชนิด และเป็นพิเศษคือ ดอกบัว ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ ทุกสีทุกพันธ์

   ธูป กำยาน เครื่องหอม
   แนะนำให้ใช้กลิ่น มะลิ ไม้จันทน์ หรือ ไม้กฤษณา ควรเผากำยานหอมถวายเป็นประจำ สามารถใช้กำยานจุดแทนธูปได้ น้ำมันหอมระเหยแบบอะโรมากลิ่นต่างๆก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
  
   เทศกาลสำคัญสำหรับพระวิษณุ
   วันบูชาพระวิษณุเรียกว่า วันเอกาดาศี (Ekadashi) ตรงกับวันขึ้นและแรม 11 ค่ำของทุกๆเดือน ปีหนึ่งจึงมีวันเอกาดาศี รวมเป็นจำนวน 24 วัน และใน 24 วันนี้จะมีอยู่วันหนึ่งเป็นวันพิเศษ ชื่อว่า วันนิรจาลา เอกาดาศี (Nirjala Ekadashi) ในวันนี้ศาสนิกชนชาวฮินดู ทั้งผู้นับถือพระวิษณุ และผู้นับถือพระศิวะและพรพรหม จะอดอาหารและน้ำทั้งวัน เพื่อจัดพิธีบูชาพระวิษณุอย่างยิ่งใหญ่ มีการถวายน้ำ ปัญจมาริตา (Panjamarita) คือ น้ำนมสด เนยสด นมเปรี้ยว น้ำผึ้ง และน้ำตาล มีการถวายหญ้าแพรกและดอกไม้นับหมื่นนับแสนดอก เทวาลัยและวัดต่างๆมีกลิ่นหอมตลบอบอวลไปด้วยธูป กำยาน เครื่องหอมนานาชนิด สวดบูชาและท่องมหามนต์แห่งพระวิษณุตลอดคืน จนถึงเช้าตรู่ของอีกวัน

 

 
 

บทสวดมนต่างๆ ต้องท่องนโม 3 จบก่อนเสมอเพราะว่าเราเป็นชาวพุทธมีพระรัตนตรัยเป็นสรณะอันเกษมสูงสุด

บทสวดมนต์พระนารายณ์
โอม...นะโม นารายณะ นามะ ภะวันตุเม ทุติยัมปิ...นะโม นารายณะ นามะ ภะวันตุเม ตะติยัมปิ...นะโม นารายณะ นามะ ภะวันตุเม ฯ

บทอธิษฐานขอพรพระนารายณ์

โอม...ศานตาการัม ภุชะคะศะยะนัม ปัทมะนาภัมสุ เรศัม วิศวาธารัม คะคะนะสะทฤศัม เมฆะวรรณัม ศุภางคัม ลักษมีกานตัม กะมะละนะยะนัม โยคิภีร์ ธยานะคัมมยัม วันเทวิษณุมอภะวะภะยะหะรัม สรรวะโลกัยกานาถัม ฯ



 

เรียบเรียงโดย ลูกสาวพ่อ

ความคิดเห็น :
1
อ้างอิง

ด.ญ มุทิตา ภวารศรี
 พระศรีหริวิษณุเทพคือ 1ใน 3 ของตรีมูรติ  
 
ด.ญ มุทิตา ภวารศรี [115.87.214.xxx] เมื่อ 4/03/2013 20:50
2
อ้างอิง

T
 
T [27.55.202.xxx] เมื่อ 6/12/2013 23:02
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :
 


บทความ
บทความทั่วไป
รวม LINK โหลดสื่อธรรม
การลดกรรม 45อย่าง ผลของกรรม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเจ้า
พุทธประวัติ คือ ประวัติของพระพุทธเจ้า
ประวัติพระพุทธศาสนา
ตำนานพระฤาษีและการบูชาพระฤาษี
พระแม่คายตรีมนตรา เทพีแห่งมนต์ตรา
108 พระนาม พระลักษมี
บูชาองค์อย่างไร
ประวัติพญานาค
พญานาค
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พุทธทำนาย-2
พุทธทำนาย-1
พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม 84 ปาง
ตำนาน ประวัติ พระแม่กวนอิมอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์
ตำนานฤาษี 108 ตน ตอน 8
ตำนานฤาษี 108ตน ตอน 7
ตำนานฤาษี 108 ตน ตอน 6
ตำนานฤาษี 108 ตน ตอน 5
ตำนานปู่ฤาษี 108 ตน ตอน 4
ตำนานพระฤาษี 108 ตน ตอน 3
ตำนานปู่ฤาษี 108 ตน ตอนที่ 2
ตำนานพระฤาษี 108 ตน
ปู่ฤาษีนารอด พ่อแก่ บรมครูปู่ฤาษี
ปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์
เทวดาประจำตัว,เทวดามาสร้างบารมี,มีองค์
เหตุใดเทวดาตายแล้วจึงอยากเกิดเป็นมนุษย์
กุมารทอง กุมารี
ดูการ์ตูนประวัติพระพุทธศาสนา ออนไลน์
พระราม राम
หนุมาน ผู้เก่งกล้า ว่องไว องค์รักษ์พระราม
นางกวัก เทวีแห่งการค้ารุ่งเรือง
พระแม่โพสพ เทวีแห่งข้าวปลาอาหาร
พระแม่ธรณีหรือแม่พระธรณี भारत माता (Mother Earth)
พระแม่คงคา गङ्गा เทวีแห่งสายน้ำ
พระขันทกุมาร मुरुगन เทพแห่งสงคราม
พระกฤษณะ कृष्ण อวตารของพระนารายณ์
พระแม่อุมาเทวี 9 ปาง,พระแม่ปาราวตี पार्वती 9 ปางนวราตรี
พระนางสุรัสวดี (Saraswati, सरस्वती)
พระแม่กาลีหรือกากิลา काली อวตาลหนึ่งของพระแม่อุมา
พระพรหม (Brahmā ,Sanskrit: ब्रह्मा) คือ พระเจ้าผู้สร้าง
พระแม่ลักษมี (Lakshmi,Sanskrit: लक्ष्मी)
พระตรีศักติ,พระแม่สามภพ,พระศักติ,พระแม่ตรีเอกานุภาพ
พระวิษณุหรือพระนารายณ์
พระมหาตรีมูรติ The Trimurti (English: ‘three forms’; Sanskrit: त्रिमूर्तिः trimūrti)
พระแม่อุมาเทวี(พระแม่ทุรคา,พระแม่กาลี) Parvati (Devanagri: पार्वती, Kālī: काली)
พระพิฆเนศมหาเทพ Ganesha (Sanskrit: गणेश)
พระนามต่างๆของ พระศิวะมหาเทพ
ศิวลึงก์ लिङ्गं สัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ
พระศาสดามหาศิวะเทพ (พระอิศวร) शिव Shiva
ศาสนาฮินดู